ใช้ชีวิตไม่ระวัง กินไม่ยั้งแถมยังดื่มสารพัน ทั้งยังไม่บริหารร่างกาย ลดความอ้วน เว้นเสียแต่ที่จะต้องสงสัยเรื่อง โรคอ้วน แล้ว ระวังจะตามมาด้วยไขมันพอกตับและก็พัฒนาไปสู่โรคตับร้ายแรงเอาได้
ลดน้ำหนักตับ เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย นอกจากจะผลิตน้ำดี น้ำย่อย สร้างโปรตีน แล้วก็สะสมสารอาหารสำหรับร่างกายแล้ว อีกหน้าที่สำคัญของตับเป็นการกำจัดของเสียรวมทั้งสารพิษตกค้าง รวมทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องการติดเชื้อให้ร่างกายด้วย หากยังคงกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและก็ไขมันสูง นอกจากจะเป็นการสะสมไขมันไว้รอบท้องเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนแล้ว ยังส่งผลให้ตับต้องทำงานมากและก็นำมาซึ่งการสั่งสมของสารอาหารในรูปไขมันด้านในเนื้อตับที่มากกว่าปกติ เรียกว่าไขมันพอกตับ เมื่อตับเกิดไขมันเกาะมากเข้าจะทำให้เกิดการอักเสบภายในตับ จนถึงเกิดภาวะตับแข็งซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจะได้ การปลดปล่อยตามใจปากก็เลยเหมือนเป็นการเชิญภัยร้ายไปสู่ชีวิตอย่างไงแบบนั้นเลย
ถ้าหากเริ่มมีสภาวะอ้วนอาจคาดคะเนได้ว่าระดับไขมันในร่างกายเริ่มมีปัญหา แม้กระนั้นมันยังนำพาปัญหาไปหาตับด้วย ก็ต้องรีบดูแล เพื่อความมั่นใจด้วยการเช็คมองว่าดัชนีมวลกาย (BMI) ของคุณสูงเกินมาตรฐานอยู่หรือเปล่า นอกจากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารแล้ว การลดความอ้วนลงอย่างน้อย 5-10% ก็มีส่วนช่วยลดการเกิดภาวการณ์อักเสบจากการสั่งสมไขมันที่ตับ และก็ถ้าหากลดน้ำหนักลงได้มากกว่า 10% ยังช่วยทำให้การอักเสบจาก
ไขมันพอกตับดีขึ้นได้อีกด้วย
ถึงแม้การลดน้ำหนักจำเป็นต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แม้กระนั้นการดูแลตับทำได้กล้วยๆเพราะว่ามีตัวช่วยอย่าง เฮฟฟีก้า เพียงวันละ 1 เม็ด ด้วยสารสกัดจากพรูนัสมูเม่ นวัตกรรมอาหารเสริมจากประเทศเบลเยีมที่มีการค้นคว้าทางด้านการแพทย์ยืนยัน ลดการอักเสบของตับ ช่วยปกป้องรักษาและดูแลตับให้กลับมาแข็งแรง ใช่ว่าแค่คนอ้วนจะต้องระแวง แม้กระนั้นคนผอมก็ต้องระวังด้วยเหมือนกัน